(ธ.ค.66) รัฐบาลเศรษฐา จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 90 วัน "ลดรายจ่าย"

นโยบาย “ลดรายจ่าย”

1. การลดรายจ่ายด้านพลังงาน และการคมนาคม
•    ปรับลดราคาค่าไฟฟ้า 3 เดือน
    ปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่งวดบิลเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2566  
•    ลดราคาน้ำมันดีเซล
    ปรับลดราคาดีเซลลง 2.50 บาท/ลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาดีเซลจะเหลือไม่เกิน 30 บาท/ลิตร 
          ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. - 31 ธ.ค. 66
•    ลดราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95
    ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินลง 1 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 
          บาทต่อลิตร ส่วนแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 - 31 ม.ค. 2567
•    ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG
    ตรึงราคาขายปลีก ก๊าซหุงต้ม LPG ขนาด 15 กิโลกรัม ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง  
          ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 66
•    ลดราคารถไฟฟ้า สีม่วงและสีแดง 20 บาท ตลอดสาย 
    ลดค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยเริ่มให้บริการในรถไฟฟ้าในเส้นทางสายสีม่วง (สถานีคลองบางไผ่ - สถานีเตาปูน) จำนวน 10 สถานี และสายสีแดง (สถานีกลางบางซื่อ - สถานีรังสิต) จำนวน 4 สถานี ส่วนเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นๆ นั้น หลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาร่วมกับภาคเอกชน เพื่อดำเนินการนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ให้ครอบคลุมโครงข่ายในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในทุกเส้นทาง ตามเป้าหมายภายใน 2 ปีนับจากนี้ต่อไป

2. ครม. เห็นชอบจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000 บาท 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
   ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/2567 (เพิ่มเติม) ตามที่คณะกรรมการบริหารและจัดการข้าวแห่งชาติ (นบข.) เสนอมาตรการให้เงินช่วยเหลือชาวนา (ค่าเก็บเกี่ยวข้าว) ไร่ละ 1,000 บาท ภายใต้โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท
-    กลุ่มเป้าหมาย : เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
-    วิธีการ : กรมส่งเสริมการเกษตร นำข้อมูลรายชื่อเกษตรกรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2566/2567 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกร ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท 
ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท โดยจะมีการจ่ายเงินเกษตรกรเป็น 
5 งวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. - 2 ธ.ค. 2566 โดยใช้เวลา  5 วัน สามารถจ่ายได้ครบทั้ง 77 จังหวัด กรอบวงเงินรวมกว่า 54,336 ล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.

3. ช่วยชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM 2.5 120 บาท/ตัน
    ครม. มีมติเห็นชอบเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ในโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น pm 2.5 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท คาดว่า มีชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 ราย ทั้งนี้ โครงการฯจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวไร่อ้อย และส่งผลต้นทุนการผลิตอ้อยปรับตัวสูงขึ้น
สาระสำคัญ 
    1. จ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตามโครงการฯ ในอัตราไม่เกิน 120 บาทต่อตัน เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยสามารถดำเนินการเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี และนำไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดที่ทำให้เกิดการลักลอบเผาอ้อย เช่น เกษตรกรใช้เตรียมพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสมกับการเก็บเกี่ยวด้วยเครื่องจักรกลทางการเกษตร หรือการเตรียมร่องดินให้เครื่องจักรกลเก็บเกี่ยวได้ เป็นต้น
    2. ใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นจำนวนเงิน 7,775.01 ล้าน
    3. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของ ธ.ก.ส. รวมจำนวนเงิน 215.59 ล้านบาท แบ่งเป็น
        - ชดเชยต้นทุนเงินในอัตราต้นทุนทางการเงินของ ธ.ก.ส. ประจำไตรมาส บวก 1 (ปรับเปลี่ยนอัตราต้นทุนทางการเงินตามอัตราที่แท้จริงทุกไตรมาส) ปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 2.76 ต่อปี เป็นจำนวนเงิน 214.59 ล้านบาท
        - ค่าบริหารจัดการรายละ 5 บาท จำนวน 200,000 ราย เป็นจำนวน 1 ล้านบาท
    ทั้งนี้ โรงงานต้องจัดส่งข้อมูลคู่สัญญาชาวไร่อ้อยพร้อมจำนวนตันอ้อยสดที่ส่งโรงงานและสำหรับหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย ซึ่งได้ดำเนินการรวบรวมอ้อยจากชาวไร่อ้อยรายย่อยส่งให้กับโรงงานต่าง ๆ จะต้องแสดงบัญชีรายชื่อชาวไร่อ้อยรายย่อยที่อยู่ในสังกัดพร้อมจำนวนตันอ้อยสด เพื่อที่ ธ.ก.ส. จะได้โอนเงินช่วยเหลือไปยังบัญชีธนาคารของชาวไร่อ้อยรายย่อยโดยตรง โดยกำหนดจ่ายเงินช่วยเหลือเพียงครั้งเดียวช่วงเดือนธันวาคม 2566 - เมษายน 2567
เปิดหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย
    1. ชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยสดคุณภาพดีให้กับโรงงานน้ำตาลจะต้องเป็นชาวไร่อ้อยที่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 และได้จัดทำคู่สัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก่อนเปิดหีบอ้อย
    2. ชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยสดคุณภาพดีให้กับโรงงานผลิตเอทานอล จะต้องเป็นชาวไร่อ้อยที่ได้ทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานผลิตเอทานอล หรือขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
    3. ชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยสดคุณภาพดีให้กับโรงงานผลิตน้ำตาลทรายแดงจะต้องเป็นชาวไร่อ้อยที่ได้ทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานผลิตน้ำตาลทรายแดง หรือขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   คาดการณ์ว่าจะมีชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 รายและมีผลผลิตอ้อยสดคุณภาพดี 
ปีการผลิต 65/66 กว่า 64.79 ล้านตัน

การขอรับเงินอุดหนุนโครงการฯ ไม่ขัดต่อพันธกรณีภายใต้ WTO
    เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีภายใต้ WTO ในข้อกำหนดด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Green box) ด้านการเกษตร โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและราคาสินค้า
สอน. เผยข้อดี “อ้อยตัดสด งดการเผา” ลดฝุ่น PM 2.5
    สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เผยข้อดีของการเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยสดคุณภาพดีปราศจากการเผา “อ้อยตัดสด งดการเผา” ใน 3 ด้าน ได้แก่ 
    1. ด้านรายได้ (Income)
•    อ้อยมีน้ำหนักดี ความหวานสูง
•    มีผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยได้มากขึ้น
•    ผลผลิตน้ำตาลทรายมีคุณภาพ
•    ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และวัตถุปรับปรุงดิน
•    ไม่ถูกตัดราคา
•    ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการวัชพืช
    2. ด้านการจัดการ (Management)
•    มีความยืดหยุ่นในการผลิต
•    ใบอ้อยที่ไม่ถูกเผาจะคลุมดิน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน
•    การไม่เผาทำให้มีแมลงหางหนีบมากขึ้น (ช่วยควบคุมหนอนกอระบาด)
•    ใบอ้อยที่คลุมดินเป็นที่อยู่ของแมลงศัตรูธรรมชาติ
    3. ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment)
•    ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ
•    สร้างระบบนิเวศน์ในแปลงอ้อย
•    เป็นการทำเกษตรแบบยั่งยืน

4. รัฐบาลประกาศเดินหน้า “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ
    นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แถลงวาระแห่งชาติ เรื่อง ‘การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ’ เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้สินนอกระบบเป็นปัญหาเรื้อรังและใหญ่เกินกว่าจะแก้ปัญหาได้โดยไม่มีภาครัฐเป็นตัวกลาง ซึ่งการดำเนินการจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงาน เพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ฟื้นฟูความเป็นอยู่ คืนศักดิ์ศรี ความหวัง และสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนคนไทย  เพื่อไม่ให้ประชาชนกลับไปอยู่ในวงจรหนี้สินนอกระบบอีก
    โดยกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะใช้กลไกการทำงานการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ ตั้งแต่การช่วยเหลือลูกหนี้ ไกล่เกลี่ยและประนีประนอมข้อพิพาท การเฝ้าระวังและป้องกัน รวมถึงการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด หลังจากขั้นตอนการไกล่เกลี่ยแล้ว รัฐบาลจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ในส่วนนี้กระทรวงการคลังจะเข้าไปช่วยในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ทั้ง ช่วยปรับระยะเวลา เงื่อนไข และกระบวนการต่าง ๆ  เพื่อให้ประชาชนสามารถชดใช้หนี้ได้ โดยไม่เบียดบังการใช้ชีวิต
เปิดให้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ 
-    เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th
-    แอปพลิเคชัน ThaiID 
-    สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง    
-    ที่ว่าการอำเภอ
-    สำนักงานเขตทุกแห่งใน กทม.    
ธนาคารรัฐดูแลหนี้นอกระบบ หลังไกล่เกลี่ยฯ และปรับโครงสร้างหนี้
    ธนาคารออมสิน ให้สินเชื่อกับลูกหนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ราย และระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี รวมทั้งมีโครงการสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระ ไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 8 ปี และคิดดอกเบี้ยตามความสามารถของลูกหนี้
    ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ดูแลลูกหนี้ที่นำที่ดินไปขายฝากกับเจ้าหนี้นอกระบบ โดยหนี้ที่มีการแก้ไขแล้วหรือไกล่เกลี่ยฯ เรียบร้อยแล้ว ธ.ก.ส. จะเข้าไปปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ที่เป็นเกษตรกร ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท/ราย ส่วนเจ้าหนี้นอกระบบ ที่สนใจจะประกอบกิจการให้ถูกกฎหมายสามารถมายื่นขออนุญาตประกอบกิจการพิโกไฟแนนซ์ได้ ปัจจุบันมีผู้ขออนุญาตแล้วกว่า 1,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อรัฐบาลเข้าไปเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย จะต้องมีการคิดดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมาย คือ ไม่เกิน 15% 
ต่อปี หากลูกหนี้รายใดจ่ายเกินยอดหนี้ไปแล้วให้ถือว่าเป็นอันจบกัน
เดินหน้าแก้หนี้ ‘ข้าราชการ’
    โดยภาพรวมหนี้ของข้าราชการทั้งระบบที่อยู่ในระบบเงินกู้สหกรณ์ ขณะนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่กระทรวงศึกษาธิการ ประมาณ 8 แสนคน กระทรวงสาธารณสุข 2 แสนกว่าคน และข้าราชการตำรวจ 2.3 แสนคน สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินของข้าราชการนั้น รัฐบาลจะดูแลข้าราชการในระบบสวัสดิการ และดูแลเรื่องการหักเงินเดือนให้ทุกหน่วย

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar